Ultra Carbon : เป็นการนำเทคโนโลยีของเส้นใยคาร์บอนที่ได้รับการพัฒนานำมาผสานกันอย่างหนาแน่นเพิ่มมากขึ้นเพื่อทำให้เกิดความแข็งแรงที่สูงเพิ่มมากขึ้นทนความต้านทานทนต่อแรงกระเทกรวม ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่ของการบิดเบี้ยวของหน้าไม้เมื่อขึ้นเอ็นที่มีความตึงมากๆ
3D BRAID POWERTEC : เป็นการใช้เทคโนโลยีในการทอประสานเส้นใย โดยเป็นเส้นเดียวเชื่อมต่อกันทั้งหมด ด้วยเทคโนโลยีนี้ ทำให้ไม้มีน้ำหนักเบาขึ้นและมีความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้นในบริเวณของข้อต่อระหว่างก้านกับหัวไม้ ซึ่งจะทำให้รู้สึกถึงความแข็งแรงและความยืดหยุ่น เมื่อได้ลองสัมผัสกับผลงานอันประณีตที่ได้ทำขึ้นโดยเฉพาะ
ในเรื่องของวัตถุดิบนั้นทาง Lining ได้ทำการผสมผสาน Cabon Fiber ที่มีน้ำหนักเบาแต่มีความเหนียวทนทานมาประกอบเข้ากันและนำมาทำการประสานทักทอด้วยกรรมวิธีชั้นสูงทำให้เกิดความหนาแน่นสูง,แข็งแรง,และมีความทนทานสูง และในส่วนของตัวไม้นั้นจะไม้ได้ใช้เทคโนโลยีตัวนี้ในการทำ แต่จะใช้เทคโนโลยีที่มีความยืดหยุ่นสูงมากกว่าเข้ามาผสมผสานในการทำก้าน
Aerotect – Beam System : เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ Lining ได้ออกแบบมาเพื่อพัฒนาลักษณะของเฟรมไม้ให้มีแรงต้านทานอากาศที่ลดน้อยลงเพื่อช่วยในการเคลื่อนที่ของหน้าไม้ได้รวดเร็วเพิ่มมากขึ้น
Dynamic – Optimum Frame (Isometric frame Design) : เป็นการออกแบบลักษณะของบริเวณหน้าไม้ให้มีจุดรับแรงกระแทก,กระทบ (Sweet Point) เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นนั้นสามารถตีลูกกลับไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นการช่วยเพิ่มความแข็งแรงของหน้าไม้ให้มีความแข็งแรง และพื้นที่ในการขึ้นเอ็นเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเมื่อทำการขึ้นเอ็นสามารถขึ้นได้ตึงมากขึ้นด้วย
Free hole : ถือได้ว่าเป็นการประดิษฐ์ออกแบบรูปแบบใหม่ที่ทำขึ้นมาเพื่อการสนับสนุนเรื่องของการขึ้นเอ็นโดยเฉพาะด้วยการออกแบบตรงบริเวณร้อยเอ็นให้เป็นร่องจะทำให้สามารถขึ้นเอ็นได้มีประสิทธิภาพสามารถขึ้นได้ตึงมากขึ้นและสามารถลดแรงกระแทกที่มีผลเนื่องมาจากการตีลูกได้โดยเฉพาะในจุดของกระทบบริเวณเลข 3 และ 9 นาฬิกาซึ่งสามารถทนแรงเพิ่มขึ้นได้ 30% และลดแรงสั้นสะเทือนได้เพิ่มสูงขึ้นได้ถึง 20% ทีเดียว
Hightensile Slim Shaft : เป็นการใช้เทคโนโลยีเชื่อมต่อจาก Taper Shaft ให้มีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้น โดยการคำนึงถึงเรื่องของการแหวกอากาศและลดความต้านทานของอากาศ ทำให้การเคลื่อนไหวของไม้ทำได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งจะประกอบการการทำไม้ให้มีน้ำหนักที่มีความสมดุลกับตัวก้านทำให้เพิ่มประสิทธิยิ่งขึ้น
High Carbon : เป็นการนำเทคโนโลยีของเส้นใยคาร์บอนซึ่งผ่านกรรมวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อพัฒนาให้มีเป็นเส้นใยคาร์บอนที่มีความหนาแน่เพิ่มมากขึ้น เมื่อนำมาประกอบเข้ากันขึ้นมาเป็นเฟรมไม้ขึ้นใหม่ มีจุดประสงค์ในการทำให้ไม้มีความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้นและง่ายต่อการควบคุม
ซึ่งด้วยเทคโนโลยีนี้ ทำให้น้ำหนักของไม้ลดลงแต่จะมีความแข็งแรงและความยืดหยุ่นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเหมาะกันนักกีฬาที่พึ่งเริ่มต้นฝึกเล่นแบดมินตัน
Inner Wave Frame : เป็นเทคโนโลยีที่มีการออกแบบโดยใช้ความรู้ขั้นสูงในการช่วยในการออกแบบ เพื่อพัฒนาให้ลักษณะของเฟรมไม้นั้นมีการต้านอากาศให้น้อยที่สุด (Air resistence) ซึ่งทำให้การเหวี่ยงของไม้นั้นกระทำได้อย่างรวดเร็ว
Reinforcing Technology : เป็นการใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า “Muti-layer cabon fibers” ด้วยเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ผู้เล่นมีกำลังเพิ่มขึ้นในการออกลูกในแต่ละครั้งแต่ละจังหวะของการตี ในการที่เราใช้เทคโนโลยี Cabon Fiber นั้น จะทำให้เกิดความแข็งแรงของหน้าไม้เพิ่มขึ้น แต่จะไม่แข็งกระด้าง โดยจะใช้เทคโนโลยีนี้ทั่วทั้งหน้าไม้ไม่ใช้ใช้เฉพาะจุดทำให้เมื่อเกิดแรงกระทบหรือความเครียดเกิดขึ้นที่บริเวณใดบริเวณหนึ่งนั้นจะไม่เป็นผลทำให้เกิดความแตกร้าวเฉพาะจุดง่ายเพราะการใช้เทคโนโลยีนี้ทำให้เกิดความเหนียวสูงมาก วิธีการคือจะใช้ Cabon Fiber นำมาซ้อนเป็นชั้นๆมากถึง 4 ชั้นในบริเวณรอบไม้ทำให้เกิดความแข็งแรงสูงแต่จะไม่กระด้างด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยด้วยการคิดค้นของนักวิทยาศาสตร์ของ Li-Ning
Taper Shaft : เป็นการออกแบบก้านไม้ให้มีลักษณะเรียว ด้วยการพัฒนาทางเทคโนโลยีแล้ว สามารถออกแบบให้ตัวก้านเรียว แต่ยังคงความคงทนแข็งแรงและมีสปริงของก้านไม่ที่ดีอยู่
TB-NANO POWERTEC : เป็นการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีทางด้าน Nano-Technology ให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้นซึ่งจะทำให้มีความแข็งแรง สามารถรับแรงกระแทกกระทบจากการตีได้สูงขึ้นจากผู้เล่น จากการที่ทาง LINING ได้พัฒนาเทคโนโลยี “TB-NANO POWERTEC” นี้ซึ่งได้จากการที่ทาง LINING ได้มีการคัดเลือกวัตถุดิบที่มีความลงตัวและสามารถผสมผสานกันได้เป็นอย่างดีโดยการใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์และการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาทำให้มี NANO Technology มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยได้เริ่มการนำ Cabon Fiber และ Resin มาช่วยในการพัฒนาซึ่งจะทำให้เทคโนโลยี NANO ของ LINING นี้สามารถเพิ่มศักยภาพความแข็งแรงได้ถึง 20 %
Ti TANIUMExtra-elastic (Ti-3G) : การใช้เทคโนโลยีนี้จะช่วยลดปัญหาเมื่อเกิดการตีเมื่อจุดที่ 3 และ 9 นาฬีกา ซึ่งจะทำให้ทำให้เกิดการสั่นของหน้าไม้และอาจจะมีผลกระทบกับข้อมือของเราได้และด้วยเทคโนโลยี Ti TANIUMExtra-elastic จะช่วยเข้าไปเสริมในจุดที่ 3 และ 9 นาฬิกา โดยการผสมด้วย ultra elastic 3G titanium ในระหว่างจุดจะทำให้ช่วยลดปัญหาของการสั่นคลอนของหน้าไม้ได้ซึ่งจะทำให้การควบคุมทิศทางของลูกเมื่อเราตีออกไปทำได้ดีและมีความแม่นยำเพิ่มมากขึ้น และยังเป็นการลดการสั่นเพื่อลดอาการบาดเจ็บบริเวณของข้อมือผู้เล่นได้อีกด้วย
UHB SHAPT : เทคโนโลยีนี้เกิดขึ้นได้จากการที่ได้รวบรวมข้อมูลจากผู้เล่นต่างๆ รวมถึงนักกีฬาที่มีทักษะสูงเพื่อจะนำมาเป็นข้อมูลในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในเรื่องของก้านให้เกิดเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดและมีความเหมาะสมกับผู้เล่นมากที่สุด โดยในข้อมูลพื้นฐานนั้นที่ทำให้เกิดเทคโนโลยีใหม่นี้ขึ้นมาต้องอาศัยหลักของชีววิทยานำมาผสมผสานกับหลักการทางอิเล็กทรอนิคส์ซึ่งเป็นผลมาจากการศึกษาข้อมูลทาง ergonomics (ศาสตร์แห่งการออกแบบอุปกรณ์เครื่องใช้ใดๆ ที่เมื่อนำมาใช้แล้วจะก่อให้เกิดความสะดวกสบายอย่างสมบูรณ์ต่อร่างกายมนุษย์มากที่สุด)
และ จากการพยายามเก็บผลข้อมูลจากผู้ที่มีความชำนาญเชี่ยวชาญทางการเล่นระดับสูง ดังนั้นจึงทำให้ได้ก้านของไม้แบดมินตันมีประสิทธิภาพและสามารถสนับสนุนศักยภาพของหน้าไม้ให้มีคุณภาพเมื่อทำการตีลูกเพิ่มมากขึ้นก้านไม้ที่ทำด้วยเทคโนโลยีใหม่นี้จะทำให้มีความยืดหยุ่นและความแข็งแรงสูงด้วย
Wing Stabilizer(Ti-3G) : จะมีการใช้เทคโนโลยีในตัวเดียวกับ Ti TANIUMExtra-elastic จะช่วยเข้าไปเสริมในจุดที่ 3 และ 9 นาฬิกา โดยการผสมด้วย ultra elastic 3G titanium ในระหว่างจุดจะทำให้ช่วยลดปัญหาของการสั่นคลอนของหน้าไม้ได้ซึ่งจะทำให้การควบคุมทิศทางของลูกเมื่อเราตีออกไปทำได้ดีและมีความแม่นยำเพิ่มมากขึ้น และยังเป็นการลดการสั่นเพื่อลดอาการบาดเจ็บบริเวณของข้อมือผู้เล่นได้ด้วย
Shock Absorption System : เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นเทคโนโลยีขั้นสูง ที่มีการลอกเลียนแบบได้ยาก ซึ่งจะช่วยให้ผู้เล่นสามารถแสดงทักษะในการตีแบดมินตันออกมาได้อย่างเต็มความสามารถ และยังช่วยในการดูดซับแรงงสะเทือนที่มาการกระแทกระหว่างข้อมือของผู้เล่น เพื่อลดโอกาสที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ ทั้งนี้เทคโนโลยีที่ได้ทำขึ้นนี้จะมีน้ำหนักที่เบาและยังมีความยืดหยุ่นสูงอีกด้วย
